หลักการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เหมาะกับราศี ( สำหรับผู้หญิง ) และหลักการในการออกแบบเสื้อผ้า
ราศีมังกร ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม-12 กุมภาพันธ์
สาว ราศีมังกรเป็นผู้ที่มีท่าทางสงบเสงี่ยม มีความสุขุมรอบคอบ ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขยัน ชอบทำงานเป็นที่สุด ดังนั้น เสื้อผ้าอาภรณ์ต่าง ๆ ของคุณจะต้องดูทะมัดทะแมง ใส่สบาย คุณจะชอบเป็นที่สุดหากชุดเสื้อผ้าที่ใส่ทำงานมีความคล่องแคล่วมากเป็นพิเศษ
สีที่เหมาะกับสาวราศีมังกร คือสีที่ดูขรึมไม่ฉูดฉาด อย่างเช่น สีดำ สีน้ำตาล สีเทา เป็นต้น
ราศีกุมภ์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์-13 มีนาคม
สาว ราศีนี้เป็นผู้รอบรู้ และสนใจใคร่รู้ในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ชอบการคบค้าสมาคม มีเสน่ห์และมีอารมณ์สนุกสนาน ชอบการแต่งกายที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร สาวราศีนี้ชอบชุดทำงานที่ดูดีมีสง่า และเหมาะกับตัวเองที่สุด
สีที่เหมาะกับสาวราศีนี้คือ สีที่เกี่ยวกับความฉลาดและความนึกคิด อย่างเช่น สีเหลืองของความสดใส และสีม่วง
ราศีมีน ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มีนาคม-12 เมษายน
สาว ราศีมีน เป็นผู้ที่มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์และใจบุญ แต่เป็นสาวช่างเพ้อฝันและโรแมนติก คุณสามารถใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายแบบ แต่มักจะชอบผ้าที่เป็นลูกไม้ หรือมีโบ และผีเสื้อประดับอยู่
สีที่เหมาะกับสาวราศีปลามากที่สุดก็คือ สีเขียว และน้ำเงินของ ท้องทะเล หรือสีม่วงสำหรับผู้รักสงบ
ราศีเมษ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน-13 พฤษภาคม
สาว ชาวแกะทั้งหลายมีนิสัยกระตือรือร้นมาก และต้องการที่จะเป็น ที่หนึ่งในทุกเรื่องเสมอ ดังนั้น คุณจึงกล้าที่จะเด่นทุกเรื่อง คุณกล้าใส่ เสื้อผ้าแทบทุกสไตล์ และชอบติดตามกระแสแฟชั่นใหม่ ๆ เสมอ บางทีคุณก็อาจจะกล้าลุกขึ้นมาเป็นผู้นำแฟชั่นเองก็ได้
สีที่เหมาะกับสาวราศีเมษคือ สีโทนดำและแดงที่จะช่วยเสริมความร้อนแรงในตัวคุณ
ราศีพฤษภ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม-13 มิถุนายน
สาว ราศีพฤษภเป็นสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองเสมอ นอกจากนั้น ยังเป็นสาวที่คิดอะไรอย่างมีเหตุมีผล ส่วนใหญ่สาวราศีพฤษภมักประสบ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน สาวราศีนี้มักไม่นิยมแฟชั่นใหม่ ๆ ที่ดูฉาบฉวย แต่คุณจะเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีความประณีตในการตัดเย็บและดูภูมิฐาน และต้องเป็นแบบที่ดูดีไม่มีที่ติ ดูมีรสนิยม เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น
สีที่เหมาะกับสาวราศีพฤษภคือสีในโทนเรียบอย่าง สีน้ำตาล เบจ ขาวและดำ
ราศีเมถุน ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-14 กรกฎาคม
สาว ราศีเมถุนเป็นสาวที่เหมือนมีสองบุคลิกในร่างเดียวกัน กล่าวคือ อย่างหนึ่งคือทำงานเก่ง แต่อีกร่างหนึ่งก็คือชอบท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ สาวราศีเมถุนเป็นสาวมั่นที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ในขณะเดียวกันก็กระชับกระเฉงว่องไว ถึงแม้การแต่งตัวจะดูเรียบ แต่ถ้าสาวราศีเมถุนนึกอยากจะใส่อะไรที่แปลกใหม่ก็ลุกขึ้นมาใส่โดยไม่ลังเล ตามสไตล์สาวยุคใหม่ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง
สีที่เหมาะกับสาวราศีเมถุนคือ สีส้มที่จะช่วยกระตุ้นความคิดและความกระตือรือร้นให้สาวราศีนี้
ราศีกรกฎ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม-16 สิงหาคม
สาว ราศีกรกฎเป็นสาวแสนอ่อนไหว มีความอบอุ่น ช่างคิดฝัน โรแมนติก กล่าวคือมีความเป็นศิลปินสูง สไตล์การแต่งตัวของสาวราศีนี้เน้นความเบาสบายในการสวมใส่เป็นหลัก ดูเป็นธรรมชาติ และมีความเป็นศิลปินไม่ตามแฟชั่นมากนัก นอกจากนั้นสาวราศีนี้ชอบใส่เสื้อผ้าที่มีลายลูกไม้น่ารัก ๆ ประดับอยู่ หรือชอบใส่กางเกงผ้าบาง ๆ พลิ้ว ๆ
สีที่เหมาะกับสาวราศีกรกฎคือ สีน้ำเงินหรือสีเขียว ที่ช่วยคุมอารมณ์ที่อ่อนไหวของคุณไม่ให้อ่อนไหว จนเกินไปนัก
ราศีสิงห์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 สิงหาคม-16 กันยายน
สาว ราศีสิงห์ เป็นสาวที่มีนิสัยร่าเริง เปิดเผย ชอบแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นสาวเสน่ห์แรง ติดเป็นคนมีเพื่อนมาก การแต่งตัวของสาวราศีสิงห์นั้นโปรดปรานที่สุดคือเสื้อผ้าที่นุ่มใส่สบายและ ดูสง่า หรูหรา สาวราศีนี้เป็นสาวที่ตามแฟชั่นไปอย่างติด ๆ แต่ก็ไม่ตามแฟชั่นจนเกินไปนัก กล่าวคือถ้าสวมใส่ออกมาแล้วสาวราศีนี้ต้องออกมาดูดีด้วย นอกจากนั้นสาวราศีนี้เป็นคนเจ้าระเบียบ กล่าวคือคุณจะไม่ใส่เสื้อผ้าปนกัน เสื้อทำงานก็คือใส่ไปทำงานเท่านั้น ไม่มีการใส่ปะปนกับชุดใส่เล่น
สีที่เหมาะสมกับราศีนี้คือ สีแดง เหลืองหรือส้มที่เหมาะกับคนกล้าแสดงออก
ราศีกันย์ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 กันยายน-16 ตุลาคม
สาว ราศีกันย์เป็นหญิงสาวที่แสนหวาน และละเอียดรอบคอบ เรียบร้อยเข้ากับคนง่ายและมีเมตตา ชุดที่สาวราศีนี้เลือกใส่จะต้องเป็นชุดที่รีดเรียบ สะอาดเรียบร้อย มีลักษณะหลวม ๆ ใส่สบาย ไม่คับจนเกินไป
สีที่เหมาะกับสาวราศีกันย์ คือ สีเอิร์ธ โทน อย่างเช่น สีน้ำตาล ครีม หรือสีที่ดูหวานและเรียบร้อยอย่างสีชมพู
ราศีตุล ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม-16 พฤศจิกายน
สัญลักษณ์ ของราศีนี้คือตาชั่ง ดังนั้น สาวราศีตุลจึงเป็นสาวที่มีเหตุมีผล มีลักษณะของปัญญาชน รักความยุติธรรมเป็น ที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยน มองโลกในแง่ดี สาวราศีนี้ไม่เคยลังเลในการแต่งตัว นอกจากนี้ สาวราศีนี้ยังรักการช็อปปิ้งและมีรสนิยมในการแต่งตัว ดังนั้น คุณจึงเลือกใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับทุกอย่างได้อย่างลงตัว
สีที่เหมาะกับสาวราศีตุลคือ สีในโทนโรแมนติกอย่างชมพู และสีในโทนเย็นอย่าง สีน้ำเงินและสีฟ้า
ราศีพิจิก ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม
สาว ราศีแมงป่องเป็นสาวที่มีความหยิ่งทะนงในจิตใจ รักเกียรติ ไว้ตัว และไม่ชอบการอยู่ใต้บังคับบัญชา สาวราศีนี้เป็นสาวลึกลับและเจ้าเสน่ห์ สาวราศีนี้ชอบใส่เสื้อผ้าแบบยาว ๆ พลิ้ว ๆ ที่ทำจากผ้าไหม ให้ดูเซ็กซี่ สาวราศีนี้ยอมลงทุนกับเสื้อผ้าที่ใส่ไปทำงานมากกว่าเสื้อผ้าที่ใส่ในกรณี อื่น ๆ
สีที่เหมาะกับสาวราศีพิจิกมากที่สุดคือ สีแดงเข้ม น้ำเงินหรือดำ เพราะจะยิ่งทำให้สาวราศีนี้ดูลึกลับ แต่ก็แฝงความร้อนแรงอยู่ในตัว
ราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม-15 มกราคม
สาว ราศีนี้เป็นนักบุญแห่งจักรราศี ใจกว้าง ใจดี ซื่อสัตย์ หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง กระตือรือร้นเป็นที่สุด เสื้อผ้าที่เหมาะกับสาวราศีนี้คือ เสื้อผ้าที่ดูคล่องตัวออกแนวสปอร์ตนิด ๆ ส่วนผ้าที่สาวราศีนี้ชอบสวมใส่มากได้แก่ ผ้าฝ้าย ผ้าป่าน ที่ทำจากธรรมชาติ
สีที่เหมาะกับสาวราศีธนูคือ สีม่วง ที่เข้ากับความคิดในแง่บวก สีเขียวของธรรมชาติ และสีเหลืองดูสดใส
หลักการออกแบบ(Principlea ofDesign) Proportion(สัดส่วน) Balance(ความสมดุล) Emphasis(การเน้น)
หลักการออกแบบ( Principlea ofDesign ) เมื่อทราบองค์ประกอบของการออกแบบแล้วการที่จะนําเอาองค์ประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เส้น สี ที่ว่าง รูปแบบ พื้นผิว เส้นกรอบนอกต่าง ๆ มาใช้ในการออกแบบ ควรจะต้องทราบหลักการออกแบบด้วย เพื่อจะได้นําองค์ประกอบต่าง ๆ มาใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งหลักการออกแบบมีดังนี้
1. Proportion (สัดส่วน)
2. Balance ( ความสมดุล )
3. Rhythm (จังหวะ)
4. Emphasis (การเน้น)
5. Harmony (ความกลมกลืน)
Proportion(สัดส่วน)
เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่มีความสัมพันธ์ระหว่างความสูง ความกว้างของโครงร่าง Proportion จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเวลาที่นักออกแบบใช้เส้นตกแต่งลงไปในโครงร่าง ใน formใน space เป็นการใส่รายละเอียดลงไป เช่น เส้นจากการต่อตะเข็บ เข็มขัด สาบเสื้อ กระเป๋าต่าง ๆ และที่สําคัญ Proportion สามารถลวงตาได้โดยการใช้สิ่งตกแต่งที่ทําให้เกิดเป็นเส้นแบ่งเนื้อที่ในโครงร่าง ให้ได้สัดส่วนที่ดูดีเหมาะสมกับลักษณะรูปร่างของแต่ละคน ซึ่งแต่ละคนจะมีรูปร่างที่แตกต่างกันการแบ่งเนื้อที่ หรือ space ในโครงร่าง นิยมที่จะใช้สัดส่วน 3 : 5 หรือ 5 : 8 มากกว่าสัดส่วนอื่น ซึ่งจะมี1 :2 , 3 : 4 , 6 : 8 , 4 : 8 สัดส่วนที่จัดว่าไม่ดีคือ1: 1 การแบ่งสัดส่วนจะแบ่งจากคอเสื้อถึงชายกระโปรง เช่น 3 : 5 เป็น 8 ส่วน ใช้ 3 ส่วนเป็นตัวเสื้อ 5 ส่วนเป็นกระโปรง อัตราส่วนนี้เหมาะสําหรับผู้ที่มีรูปร่างที่มีสัดส่วนดีเป็นมาตรฐาน คือ จะมีความสูงระหว่า 150 ซม. – 160 ซม. ถ้าความสูงตํ่ากว่า 150 ซม. ควรเลือกอัตราส่วนอื่นที่กะด้วยสายตาแล้วได้สัดส่วนที่ดีเช่น1 : 2 , 5 :8 คนที่มีรูปร่างผอมสูงกว่า160ซม.สัดส่วนที่เหมาะสมคือ3ส่วนเป็นตัวเสื้อ4ส่วนเป็นกระโปรงส่วนมากแล้วในทางเสื้อผ้าหรือพวกศิลปะที่ต้องใช้การวัดด้วยสายตาจะใช้สัดส่วน5 : 8 หรือสัดส่วน 4 : 8 ก็จะมีความแตกต่างกันที่เหมาะสม ส่วน 6 : 8 จะมีความแตกต่างกันน้อยดูแล้วไม่เหมาะสมไม่ได้สัดส่วนการเป็นสัดส่วนกันนั้นไม่ใช่เฉพาะการเป็นสัดส่วนแค่ส่วนบนกับล่าง หรือเสื้อกับกระโปรงเท่านั้น การต่อตะเข็บ ต่อกระเป๋าชั้นของกระโปรงต่าง ๆ ควรต้องเป็นสัดส่วนกัน ถ้า จะยึด5 :8 ก็ควรจะเป็น5 :8 เหมือนกันหมด
Balance (ความสมดุล)
เป็นการจัดสัดส่วนขององค์ประกอบต่าง ๆ ให้มีความรู้สึกว่าเท่ากัน เช่น ในเรื่องของความสมดุลของเส้น ความสมดุลของสี ความสมดุลของพื้นที่ ความสมดุลของสัดส่วน ซึ่งการสมดุลในเรื่องของแฟชั่น หรือความงามจะไม่เหมือนกับความสมดุลในแง่ของคณิตศาสตร์ที่มีสูตรในเรื่องของความงาม ไม่มีจุดศูนย์กลางให้มองเห็น จะต้องใช้ประสบการณ์และการฝึกฝนบ่อย ๆ ความชํานาญความรู้สึก ความสมดุล จะมีทั้งด้านขวาและด้ายซ้ายด้านหน้าและด้านหลังข้างบนกับข้างล่างจัดความสนใจตามธรรมชาติแล้วจะอยู่ตั้งแต่เหนือเอวขึ้นไปความสมดุลโดยทั่วไปจะมี2 ลักษณะ
1. Formal symmetrical balance เป็นความสมดุลที่สายตาเราบอกว่า 2 ข้างมันเท่ากันเป็นการจัดรูปร่างที่มีลักษณะและรูปร่างเท่ากัน เหมือนกันทั้ง 2 ข้าง เหมือนกับการเล่นไม้กระดกหรือชั่งนํ้าหนักที่ทั้ง2 ข้างเท่ากันระยะห่างก็เท่ากัน
2. Informal asymmetrical balance หมายถึงการจัดให้ขนาด รูปร่าง หรือสี ฯลฯให้มีความแตกต่างกัน 2ข้างแต่ให้มีนํ้าหนักเท่ากันหรือใกล้เคียงกันเหมือนกับการที่ของมีนํ้าหนักมากกว่าจะต้องเลื่อนเข้ามาใกล้จุดกึ่งกลางเพื่อให้นํ้าหนัก 2 ข้างเท่ากัน ระยะห่างของ 2 ข้างจากจุดกึ่งกลางจะไม่เท่ากัน หรือ อาจจะเพิ่มนํ้าหนักของข้างที่เบากว่าให้เกิดความ Balanceกันในการเน้นจุดเด่นด้านหน้าและด้านหลังบนเสื้อผ้าชุดเดียวกันควรให้จุดเด่นด้านหน้ามีขนาดเล็ก เช่นดกไม้ เข็มกลัด เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้จุดเด่นนั้นไปข่มจุดเด่นอื่น ๆ
Emphasis (การเน้น)
เป็นการจูงใจเพื่อจะนําสายตาของผู้พบเห็นมุ่งไปสู่จุดที่สําคัญที่สุดหรือที่น่าสนใจที่สุดของเสื้อผ้านั้นหรืองานนั้น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สําคัญสําหรับนักอกแบเช่นกัน เพราะงานของนักออกแบบ ( designer ) ที่ออกมาก็ย่อมต้องการให้ผู้พบเห็นสนใจในจุดที่สําคัญที่สุดของงานชิ้นนั้น แต่ถ้าผู้พบเห็นมองไม่เห็นจุดสําคัญจุดนั้นกลับมองข้ามไป งานนั้นก็ดูเหมือนไม่ประสบผลสําเร็จ การเน้นหรือการที่จะให้จุด ๆ หนึ่งเป็นจุดที่สําคัญที่สุดการสร้างจุดเน้นหรือจุดเด่นอาจใช้เรื่องของสีมาใช้เช่นการใช้สีที่ตัดกันการจัดเส้นให้ซํ้ากันหรือการตีเกร็ดนักออกแบบจะต้องมีความชํานาญในการที่จะเน้นจุดต่าง ๆ ของเสื้อผ้า จากสิ่งที่สายตาที่มองเห็นแล้วมันมากมาย ยุ่งเหยิง น่าสนใจน้อยที่สุด นักออกแบบจะต้องตัดสินใจ หรือมองเห็นได้ว่าอะไรเป็นจุดเน้นหลัก อะไรเป็นจุดเน้นรอง ตรงไหนควรจะเป็นจุดเน้นแล้วจะเน้นด้วยอะไรจะต้องใช้มากน้อยแค่ไหนสามารถทํา ได้หลายวิธี